วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ฝังเข็มลดความอ้วน

หุ่นดีด้วยการฝังเข็ม

การฝังเข็มเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของแพทย์แผนจีนโบราณ ปัจจุบันได้รับการยอมรับและเชื่อถือมากขึ้นจากแพทย์แผนตะวันตก เพราะสามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ โดยใช้หลักของประสาทสรีรวิทยา คือเมื่อมีการกระตุ้นปลายประสาท จะส่งผลให้อวัยวะต่างๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงาน การฝังเข็มก็คือการใช้เข็มเป็นตัวกระตุ้นซึ่งให้ผลการรักษาดีไม่น้อย เพราะแพทย์แผนจีนได้สั่งสมความรู้มานับพันปีในเรื่องจุดต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับการทำงานและความสมดุลของร่างกาย

การฝังเข็มเพื่อเพิ่มและลดน้ำหนัก
วิธีฝังเข็มเพื่อเพิ่มหรือลดน้ำหนักถูกกล่าวขวัญกันมาก ด้วยจุดเด่นที่แตกต่างจากวิธีลดน้ำหนักอื่น ๆ ตรงที่มุ่งเน้นการมีน้ำหนักที่เหมาะสมพร้อมกับสภาพร่างกายที่แข็งแรงไม่มีอันตรายทั้งโดยตรงและผลข้างเคียง การแพทย์แผนจีนถือว่าสภาวะของร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน การรักษาจึงต้องพิจารณาว่าร่างกายของผู้นั้นอยู่ในสภาวะใด สาเหตุของปัญหาอยู่ที่ไหน โดยส่วนใหญ่คนอ้วนหรือมีน้ำหนักเกินมักมีสาเหตุจากการกินมาก แต่นำไปใช้น้อย หรือร่างกายไม่สามารถแปรอาหารเป็นพลังงานเพื่อนำไปใช้ได้หมด นั่นแสดงถึงสภาวะที่ระบบการย่อยและการดูดซึมของร่างกายผิดปกติ จึงทำให้มีไขมันหรือของเสียตกค้างในร่างกาย

นายแพทย์ภาสกิจ (วิทวัส) วัณนาวิบูล แพทย์ผสมผสานการแพทย์แผนจีนและแผนปัจจุบัน อธิบายว่า สภาวะที่ระบบการย่อย และการดูดซึมของร่างกายผิดปกติมีอยู่สองลักษณะด้วยกันประการแรกคือ มีสภาพแกร่ง หมายถึง ระบบการย่อยและการดูดซึมของร่างกายมีการสะสมความร้อนมากเกินไป ซึ่งเกิดได้จากการกินอาหารร้อน ๆ บ่อย ๆ เป็นเวลานาน การกินอาหารมื้อดึก การกินอาหารประเภทไขมันรวมถึงการกินอาหารปริมาณมากเป็นประจำ ทำให้ได้รับแคลอรี่หรือพลังงานมาก ร่างกายก็ร้อนมาก เมื่อใช้พลังงานไม่หมด ร่างกายสะสมพลังงานที่เหลือไว้ นานเข้าก็มีผลกระทบให้การย่อยไม่ดีตามไปด้วย อาการของคนที่มีสภาวะนี้จะขี้ร้อน เหงื่อออกง่าย กินเก่ง หิวง่าย หน้าแดง ลิ้นแดง ชีพจรเต้นเร็วและแรง ท้องผูก ปัสสาวะมีสีเข้ม
ลักษณะที่สองคือ ระบบการย่อยและดูดซึม มีสภาพพร่อง หมายถึงมีความเย็นมาก ทำให้ร่างกายย่อยไม่ดี ซึ่งจะมีผลให้มีน้ำและความชื้นตกค้างในร่างกายมากสังเกตได้ว่า คนอ้วนที่อยู่ในสภาวะนี้มักจะตัวบวม เนื้อเหลว และตรงกันข้ามกับแบบแรก คือ กินน้อยแต่อ้วน เหนื่อยง่าย ท้องเสียบ่อย ถ้ายิ่งไปกินของเย็น เช่น แตงโม สับปะรด ชมพู่ น้ำชา มะขามแขก ผักผลไม้ต่างๆ ก็จะยิ่งอ้วนขึ้นอีก

การฝังเข็มเพื่อลดน้ำหนักให้ได้ผลจึงต้องขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ในการวินิจฉัยสาเหตุแห่งความอ้วนของคนไข้แต่ละรายได้ถูกต้องด้วย เพราะวิธีบำบัดจะแตกต่างกันตามลักษณะว่าอ้วนแบบใด คนที่อ้วนแบบยิ่งกินยิ่งอ้วนก็ต้องใช้หลักฝังเข็มในจุดที่กระตุ้นให้สมองลดความอยากอาหาร ลำไส้บีบตัวน้อยลง จุดที่ลดความร้อนในกระเพาะและลำไส้ จุดที่ช่วยระบายความชื้นที่ตกค้างหรือที่เรียกว่าระบายเสมหะชื้น กระตุ้นให้เกิดการใช้พลังงาน และกระตุ้นบางจุดให้มีไขมันละลาย

ส่วนคนที่กินน้อยแต่อ้วน แพทย์จะฝังเข็มกระตุ้นในจุดตรงข้าม คือกระตุ้นให้กินมากขึ้น ทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น ท้องไม่ผูก ไม่เสีย บำรุงการย่อยให้แข็งแรง เมื่อระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดี ของเสียไม่ตกค้างในร่างกาย อาการบวมก็น้อยลง เป็นการรักษาสมดุลของร่างกาย เรียกว่าผอมลงอย่างแข็งแรง
ในกรณีที่ต้องการเพิ่มน้ำหนัก ก็ทำได้โดยการกระตุ้นที่ศูนย์ควบคุมความหิวความอิ่มให้ส่งผลกลับกัน คือกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหาร ให้การดูดซึมสารอาหารเป็นไปได้ดีมากขึ้น เมื่อรับประทานได้มากและร่างกายรับไปใช้ได้ดีขึ้น น้ำหนักก็จะเพิ่มตามมาในที่สุด

คนที่ต้องการลดน้ำหนักทั้งตัว หมอจะใช้เข็มกระตุ้นหลายๆจุดพร้อมกัน แต่หากต้องการลดเฉพาะส่วน ก็ทำได้โดยใช้กระแสไฟฟ้าต่อเข้ากับเข็ม ทำการกระตุ้นเป็นจังหวะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของกล้ามเนื้อ ไขมัน ที่รวมตัวกันเป็นก้อนก็จะแตกตัว ลดขนาดลงและถูกขับออกมาทางท่อน้ำเหลือง ซึ่งปลอดภัยกว่าการดูดไขมันเยอะ

แต่กระนั้นสาว ๆ ใจร้อนที่อยากมีหุ่นสวยกลับไม่ค่อยถูกใจวิธีฝังเข็ม เพราะเห็นผลช้าต้องทำต่อเนื่องอย่างน้อย 10 ครั้ง เปรียบเทียบกับการใช้ยาลดความอ้วนซึ่งเห็นผลเร็วกว่าเพราะยาจะเข้าไปบังคับให้ไม่รู้สึกหิว คุณจึงอดอาหารได้สบาย และผอมลงในเวลาอันรวดเร็วแต่ผลที่ตามมาคือ ร่างกายขาดสารอาหาร ซึ่งอันตรายมาก เมื่อหยุดยาก็มักเกิดผลตรงข้ามที่ เรียกว่า Yo-Yo Effect คือ น้ำหนักเพิ่มกลับมากกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ยังมีการวิจัยอีกด้วยว่า การฝังเข็มเพื่อเพิ่มหรือลดน้ำหนักจะมีผลให้ความดันเลือดและไขมันในเส้นเลือดลดลง และช่วยปรับระดับอินซูลิน คอร์ติโซน และอะดรีนาลิน ซึ่งเป็นสารที่มีความสัมพันธ์กับการเผาผลาญและการสะสมไขมัน ให้อยู่ในระดับสมดุลสอดคล้องกับสภาพของร่างกาย

ส่วนผลที่ได้รับจากวิธีฝังเข็ม ไม่ได้เน้นว่าคุณสามารถลดหรือเพิ่มน้ำหนักได้เท่าไหร่หากแต่จะพิจารณาถึงสุขภาพโดยรวม เป็นต้นว่า ระบบย่อยทำงานดีขึ้น อาการไม่สบายต่าง ๆ เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อหายไป ร่างกายแข็งแรงขึ้น ตรงนั้นต่างหากเป็นสำคัญ เพราะการฝังเข็มไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มหรือลดน้ำหนักเท่านั้น แต่จะปรับสมดุลของร่างกายให้สุขภาพดีขึ้นด้วย

แต่ท้ายสุด สิ่งที่พึงระลึกก็คือ หากคุณยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ของความอ้วน การบำบัดก็จะยิ่งเห็นผลช้าหรือเมื่อน้ำหนัดลดแล้วกลับไปมีพฤติกรรมการกินแบบเดิมอีก ก็ต้องเริ่มบำบัดกันใหม่

ขอขอบคุณบทความจาก นิตยสาร HEALTH & CUISINE ฉบับที่ 18 กรกฎาคม 2545

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น