วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2556

ลดความอ้วนแปลกๆของดาราฮอลลีวูด

ไม่ว่าจะสาวๆ ชาติไหน อาชีพอะไรก็คงอยากจะมีรูปร่างดีเป็นธรรมดา ยิ่งถ้าเป็นคนที่ต้องใช้รูปร่างหน้าตาทำมาหากินด้วยแล้ว ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ขืนปล่อยให้อ้วนเผละก็คงงานหาย รายได้หดกันพอดี




แต่การจะรักษารูปร่างให้ดีอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็เป็นเรื่องยากเกินไป เมื่อเกิดความจำเป็นเร่งด่วนต้องกลับมาหุ่นสวยให้ทันกำหนด สาวๆ แต่ละคนจึงต้องสรรหาวิธีมาลดน้ำหนักของตัวเอง จนกลายเป็นสูตรเฉพาะตัวกันไป



เว็บไซต์ พอช 24 ดอทคอม ก็ได้รวบรวม 10 วิธีเฉพาะตัวหรืออาจจะเรียกว่า "แปลก" ของคนดังฮอลลีวูดมาให้เราได้ดูกัน ดังนี้


วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

ลดความอ้วน สูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์

สูตรลดอ้วนแบบเบนซ์…เบนซ์…พรชิตา และเหล่าดาราช่อง3




สูตรนี้ใช้บ่อยเวลาที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ทำอาทิตย์เดียวลดได้ 5 กิโลกรัม หากทำซ้ำ 2 รอบจะลดได้ถึง 7 กิโลกรัม ควรกินน้ำอย่างน้อย 2 แก้วก่อนกินอาหารทุกมื้อ และทำติดต่อกันไม่เกิน 2 อาทิตย์







วันที่ 1

เช้า โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย

เที่ยง ไข่ต้ม 2 ฟอง

เย็น สลัดผักน้ำใส







วันที่ 2

เช้า น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว

เที่ยง ไข่ต้ม 2 ฟอง

เย็น โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย







วันที่ 3

เช้า โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย

เที่ยง เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม

เย็น สับปะรด 1 ชิ้น







วันที่ 4

เช้า น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว

เที่ยง ส้มตำ-ไก่ย่าง

เย็น โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย







วันที่ 5

เช้า น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว

เที่ยง สลัดผักน้ำใส + ไก่ย่าง

เย็น สลัดผักน้ำใส







วันที่ 6

เช้า น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว

เที่ยง ปลานึ่งหรือปลาย่าง (ไม่จำกัด)

เย็น นมสดรสจืด 1 แก้ว







วันที่ 7

เช้า ข้าว 1 ทัพพี + ไข่ต้ม 1 ฟอง

เที่ยง เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม

เย็น สับปะรด 1 ชิ้น







อ่านเพิ่มเติมในคอลัมน์ Beauty นิตยสาร Health & Cuisine

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

สูตรลับ...ลดน้ำหนัก

สูตรลับ...ลดน้ำหนัก


1. ปรับตัวตามอายุ

การรักษาน้ำหนักให้ได้ในระยะยาวต้องใส่ใจกับแต่ละจังหวะของชีวิต สิ่งเดียวกันที่คุณทำเมื่อวัย 20 อาจทำให้ลดน้ำหนักไม่ได้เมื่ออายุ 40 โดยมีเทคนิคปฏิบัติง่ายๆ เช่น กินไม่ต้องเกลี้ยง หลังจากอายุ 30 ระบบเผาผลาญจะทำงานลดลงปีละ 1-2% แค่ 100 แคลอรีต่อวัน ก็อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มได้แล้ว เลิกกิน 3 มื้อ ระบบย่อยอาหารจะช้าลงเรื่อยๆ ดังนั้น ให้ระบบทำงานน้อยลงด้วยการกินอาหารมื้อเล็กๆ เพื่อช่วยให้ระดับพลังงานในร่างกายคงที่และไม่เกิดความหิวจัด นับแคลอรีจากเครื่องดื่ม เช่น ไวน์ 5 ออนซ์ อาจมี 150 แคลอรี คิดเป็นน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 15 กิโลกรัมต่อปี





2. อย่าหยุดนิ่ง

ชดเชยระบบเผาผลาญที่เสื่อมถอยลงด้วยความแอ็กทีฟโดยไม่จำเป็นต้องเข้าฟิตเนสด้วยซ้ำ ลุกขึ้นมาเดินทุกชั่วโมง การศึกษาจากมหาวิทยาลัยเซารธ์แคโรไลน่าเปิดเผยว่า คนอ้วนมักนั่ง 9.5 ชั่วโมง/วัน โดยเฉลี่ย ขณะที่คนผอมนั่งแค่ 7 ชั่วโมงเท่านั้น การลุกขึ้นมาเดินทุกชั่วโมง จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อและการทำงานโดยรวมของร่างกาย ติด Pedometer เครื่องนับก้าวเดินจะช่วยติดตามการเคลื่อนไหวเดินให้ได้วันละ 10,000 ก้าว





3. กินผักและผลไม้ทุกวันและทั้งวัน

การกินอาหารไม่ว่าจะเพื่อสุขภาพหรือลดน้ำหนัก ก็มักจะกลับมาที่พื้นฐานคือ กินผักและผลไม้ให้มากขึ้นเสมอ กินผักและผลไม้ทุกมื้อ รวมทั้งของว่าง อย่าเป็นห่วงว่าคุณต้องกินผักเยอะแค่ไหน แค่กินทุกมื้อก็พอแล้ว ดูแลสัดส่วน ผักและผลไม้ควรมีสัดส่วนอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของอาหารแต่ละมื้อ เลือกผักและผลไม้สดเพื่อให้กินอาหารสำเร็จรูปน้อยลง โซเดียมในร่างกายก็จะลดลงตาม เช่นเดียวกับไขมันที่ทำให้เกิดอาการอักเสบและทำให้น้ำหนักเพิ่ม





4. ดื่มน้ำมากๆ

น้ำทำให้คุณอิ่ม แต่เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะรู้สึกหิวน้ำน้อยลงแต่อวัยวะก็ยังต้องการน้ำเพื่อการทำงานอยู่เหมือนเดิม อย่าสับสนระหว่างความหิวกับความกระหาย ก่อนหน้ากินขนม ลองดื่มน้ำก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณหิวจริงๆ พกน้ำขวด ไม่ว่าจะอยู่ในรถ เดินเล่นไปหาหมอ จงพกน้ำขวดไปเหมือนกับพกกระเป๋าสตางค์ เติมรสชาติให้น้ำ เช่น ฝานมะนาว ส้ม แตงโม หรือเบอร์รี่หลายๆ ชนิดใส่ลงไปในน้ำเปล่า หรือดื่มเป็นชาสมุนไพรก็ได้





5. อย่านอนดึก

คนที่นอนดึกจะควบคุมความหิวได้น้อยกว่าคนนอนเร็ว แถมยังมีฮอร์โมนความเครียดเยอะด้วย การนอนสำคัญพอๆ กับการไดเอ็ต เพราะการออกกำลังและนับแคลอรี ต้องมีการส่งเสริมด้วยการนอนตรงต่อเวลา อย่ากินขนมก่อนนอน เพราะร่างกายจะใช้พลังงานเพื่อย่อยอาหาร แทนที่จะเปลี่ยนเกียร์เข้าสู่การพักผ่อน



ขอขอบคุณข้อมูลวิธีลดความอ้วนจาก lisa

วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556

"ลดความอ้วนด้วยผลไม้" กับ ผลไม้ 8 ชนิด

"ลดความอ้วนด้วยผลไม้" กับ ผลไม้ 8 ชนิด


1. แอปเปิ้ล

ผลไม้สีแดงๆ เขียวๆ นี้ สามารถช่วยคุณสาวๆ ลดความอ้วนได้อย่างสบายๆ เลยล่ะเพราะแอปเปิ้ลได้ชื่อว่าเป็นราชาของผลไม้ลดน้ำหนัก เนื่องจากแอปเปิ้ลมีเส้นใยอาหารหรือไฟเบอร์มากมาย เมื่อทานเข้าไปแล้วจะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มท้องนาน เพราะน้ำตาลฟรักโทสในแอปเปิ้ลจะเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้าๆ ช่วยให้ร่างกายไม่รู้สึกหิว นอกจากนั้นแล้วแอปเปิ้ลยังให้พลังงานเพียงแค่ 59 แคลอรี จึงไม่ทำให้อ้วนแถมยังมีวิตามิ แร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย โดยเฉพาะ "เพคติน" ที่มีคุณสมบัติพองตัวได้มาก มันจึงไปเพิ่มกากใยในอาหารทำให้ระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ จึงช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยจับคอเลสตอรอลและช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายได้ด้วย



2. ฝรั่ง

สุดยอดผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซีชนิดนี้ช่วยให้คุณลดความอ้วนได้ไม่ยาก เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำแถมยังเคี้ยวเพลินอีกต่างหาก จึงเหมาะกับสาวๆ ที่อยากกินจุบกินจิบเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้ววิตามินซีในฝรั่งยังช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึงไร้ริ้วรอยอีกด้วย เพราะฉะนั้นหิวครั้งหน้าก็อย่าลืมคว้าฝรั่งมาทานแทนขนมกรุบกรอบนะคะ อ๊ะ...คำเตือนก็คือ ทานแต่ฝรั่งเปล่าๆ เท่านั้นนะ อย่าเผลอจิ้มพริกเกลือ พริกน้ำตาล เด็ดขาด เพราะจะทำให้อ้วนได้นะเออ



3. แตงโม

แตงโมลูกโตๆ รสหวานๆ ไม่ได้ทำให้คุณอ้วนแต่ประการใดเพราะแตงโม 1 ถ้วย ให้พลังงานเพียง 50 แคลอรีเท่านั้น แถมยังให้ไขมันน้อยนิดและยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำถึง 93% ของส่วนประกอบทั้งหมด ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเลยว่าแตงโมจะทำให้คุณสาวๆ อ้วนได้ ตรงกันข้าม หากรับประทานแตงโมแทนอาหารมื้อเย็นหนักๆ ก็ช่วยลดความอ้วนได้ด้วยแต่ควรทานอย่างพอดี ไม่มากไปนะจ๊ะ ไม่เช่นนั้นท้องไส้จะปั่นป่วนเอาได้แถมยังต้องเข้าห้องน้ำปัสสาวะบ่อย ๆ ด้วย



4. ส้ม

สาวๆ หลายคนมักแกะกากส้มออกจนหมดเพื่อให้ทานได้ง่ายๆ แต่รู้ไหมว่าคุณกำลังทิ้งของดีไปเสียแล้วเพราะกากใยของส้มนั่นแหละคือสิ่งที่จะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวให้สาวๆ ได้ โดยกากใยจะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็วและช่วยทำให้ระบายท้องได้ดี อย่างไรก็ตาม ส้ม เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับผลไม้ลดความอ้วนชนิดอื่นๆ ดังนั้นควรรับประทานแต่พอดีแล้วกันนะ



5. มะละกอ

มะละกอเป็นผลไม้ที่ช่วยขับสารพิษของเสียออกจากร่างกาย แถมยังช่วยกำจัดไขมันต่างๆ ภายในร่างกายได้ด้วยโดยมะละกอมีเอนไซน์ปาเปน ที่จะช่วยย่อยโปรตีนและย่อยอาหารจึงช่วยลดน้ำหนักได้อีกทางด้วย ส่วนใครที่อยากมีผิวพรรณสวยมะละกอก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสน เพราะมะละกอมีวิตามินซี และเบตาแคโรทีนสูง จึงช่วยบำรุงผิวพรรณได้



6. แก้วมังกร

แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่ช่วยให้คุณอิ่มท้องได้ง่ายๆ ไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่นเพราะแก้วมังกรมีกากใยสูงและแคลอรีต่ำแถมยังมีรสหวานอร่อย หลายๆ คน จึงเลือกรับประทานแก้วมังกรเป็นอาหารเย็น หรือทานรวมกับผักสลัดอื่นๆ เพื่อช่วยลดน้ำหนักโดยไม่ต้องห่วงว่าจะความหวานจะไปเป็นไขมันสะสมในภายหลัง และนอกจากลดน้ำหนักแล้งผลพลอยได้จากแก้วมังกรที่คุณสาวๆ ไม่ควรพลาดอีกเช่นกันก็คือ แก้วมังกรเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีวิตามินซีสูงมาก ดังนั้น จึงช่วยบำรุงผิวพรรณไปในตัวแถมยังช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนมดีต่อคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรด้วย



7. กีวี

อีกหนึ่งผลไม้ยอดนิยมของสาวๆ ที่ปรารถนาจะลดน้ำหนักเลยล่ะเพราะกีวีเป็นผลไม้ที่มีกากใยมากกว่าแอปเปิ้ลและส้มถึง 25% ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและนาน แถมยังมีวิตามินซี และวิตามินอีสูง ซึ่งจะช่วยให้ผิวพรรณสดใสช่วยต่อต้านอนุมูลอิสร ลดคอเลสเตอรอลในเลือด บำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดงให้แข็งแรงและช่วยสลายไขมันในเลือดด้วย ใครที่ชอบทานกีวีจึงได้ประโยชน์จากกีวีแบบหลายเด้งเลย



8. เกรปฟรุต

สุดยอดผลไม้ไดเอตที่กำลังเป็นที่นิยมเพราะเมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่าการกิน "เกรปฟรุต" ครึ่งลูกก่อนมื้ออาหารจะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้อย่างเหลือเชื่อโดยสามารถลดปริมาณแคลอรีได้ถึง 150 แคลอรีต่อวันเชียวนะ แถมเกรปฟรุตครึ่งลูกก็มีแคลอรีเพียงแค่ 39 แคลอรีเท่านั้นเอง



ขอขอบคุณข้อมูลวิธีลดความอ้วนจาก lisa