วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อาหารลดความอ้วน ภาคสอง

สามวันต่อมา ( ท่านจะเริ่มสังเกตได้ว่าน้ำหนักลดลงจนมีกำลังใจ )

มื้อเช้ายังคงเหมือนเดิม
มื้อกลางวันและเย็นเป็นผลไม้ล้วนๆ ใช่ค่ะ ผลไม้ล้วนๆ ห้ามมีอย่างอื่นเกี่ยวข้อง ผลไม้อะไรก็ได้ที่ใกล้มือ หาง่าย ทุเรียนก็ได้ มะม่วงก็ได้ กินเท่าไหร่ก็ได้แต่ต้องกินเป็นมื้อ ไม่ใช่กินจุบจิบนะคะ ทีนี้ท่านที่จ้องจะกินแต่ทุเรียนและมะม่วงสุก น้ำหนักอาจลดน้อยกว่าที่ควร ระวังกันไว้หน่อยดีกว่าค่ะ

เก้าวันชุดที่สอง ระดับความอดทนมากขึ้นไปอีกคือ นอกจากอาหารเช้าที่เหมือนเดิมแล้ว มื้อที่เหลือเป็นผักล้วน แต่โชคดีที่ฝรั่งเค้านับมันฝรั่ง เผือก ข้าวโพดเป็นผักด้วยเหมือนกัน

อาหารแนะนำได้แก่ คะน้าผัดน้ำมันหอย ผักนึ่งจิ้มน้ำพริกผัดผักทุกอย่าง สลัดผักน้ำใส ( ที่ไม่ใส่นม ไข่ และน้ำตาล )สามวันสุดท้าย ไม่ยากแล้วค่ะ มื้อเช้ายังเหมือนเดิม นอกนั้นเราจะกลับมากินแต่ผลไม้ล้วนๆ เมื่อครบสูตรนี้แล้วน้ำหนักจะลดลงทันตาเห็นค่ะ

ยิ่งถ้าใครสามารถคุมอาหารเลือกที่มีแคลอรีและไขมันน้อยๆได้ น้ำหนักจะยิ่งลดมากกว่า 5 กิโลกรัมอีกค่ะ ตัวอย่างเช่น เลือกกินปลามากกว่าขาหมู ส้มมากว่าทุเรียน เป็นต้น ทีนี้เราต้องระวังอีก สูตรอาหาร 24 วันนี้ ถ้าพลาด ผิดหรือเผลอไปหมายถึงให้เริ่มวันแรกใหม่ เริ่มตั้งต้นใหม่หมดนะคะ เมื่อครบ 24 วันแล้ว เราสามารถกลับไปกินอาหารแบบก่อนเริ่มทำได้อีก แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ระวังเรื่องน้ำหนักเลย สูตรไหนก็เอาไม่อยู่ค่ะวิธีนี้เป็นวิธีลดน้ำหนักที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารโดยเฉพาะ

หลังจากทำครบสูตร ถ้าอยากผอมตลอดโดยไม่ต้องควบคุมปริมาณอาหารเลย ( ใช่ค่ะ หมายถึงกินมากเท่าไหร่ก็ได้ ) ขอแนะนำให้ใช้วิธีนี้ค่ะ คือ ถ้าจะกินเนื้อ ให้กินเนื้อชนิดเดียวกันในแต่ละมื้อและกินร่วมกับผัก ห้ามกินพร้อมกับอาหารพวกแป้ง ถ้าจะกินอาหารพวกแป้งเช่นข้าว ก็ห้ามกินพร้อมกับโปรตีน ให้กินกับผักแทนข้อแนะนำอีกอย่าง ผลไม้เป็นอาหารที่แนะนำให้ติดบ้านไว้ตลอดเลยค่ะ เพราะผลไม้ใช้เวลาอยู่ในกระเพาะเราน้อย แต่อาหารหนักจะอยู่นาน

ดังนั้นเพื่อสุขภาพ เราควรกินผลไม้ก่อนกินอาหารหลัก ประมาณ 15 - 30 นาที ค่ะ วิธีนี้เราจะมีระบบย่อยอาหารที่ดีและมีผลไม้ไปตัดกำลังการกินอาหารหลักของเรา ทำให้เรากินน้อยลงเองโดยธรรมชาติ เป็นยังไงกันบ้างคะ สนใจกันรึเปล่า หรือว่ายากเกินไป เราคงต้องเข้าใจว่าโลกนี้มีสมดุลนะคะ ถ้าเราไม่คิดจะควบคุมปริมาณก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องควบคุมคุณภาพค่ะ เป็นเรื่องช่วยไม่ได้จริงๆ ( ที่มาจาก เว็บบอร์ด คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ รุ่น 62 ขอขอบคุณมา ณ ที่)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น